Da0DaoStudio
PostedDate: 05/01/2567
PostedBy: moojiw edutainment channel
สวัสดีครับ วันนี้จะพาทุกท่านไปดูปฏิกริยาชาวต่างชาติกันเมื่อทราบว่า ประเทศ ไทย ไม่ได้ติดกับดักหนี้ของประเทศจีน … ส่วนเพื่อนบ้านของเรานั้น ติดกับดักหนี้ประเทศจีนกันนักหนากันแค่ไหน แสดงข้อมูลลึกในแต่ละประเทศ
อันดับ 1 ‘ลาว’ ติดหนี้ประเทศจีน ประมาณ 450,000 ล้านบาท หรือประมาณ 65% ของ GDP .. มาจากโครงการรถไฟความเร็วสูง จีน-ลาว ความยาว 1,035 กิโลเมตร
อันดับ 2 ‘กัมพูชา’ ติดหนี้พญามังกร ประมาณ 180,000 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของ GDP .. มาจากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ รวมถึง โครงการอสังหาริมทรัพย์ในสีหนุวิลล์
อันดับ 3 ‘บรูไน’ เศรษฐีน้ำมันอาเซียนติดหนี้จีน ประมาณ 64,500 ล้านบาท หรือประมาณ 13% ของ GDP .. แม้ใครจะบอกว่าบรูไน เป็นเศรษฐีน้ำมัน แต่ใครจะรู้ว่า มันจะขุดไปได้อีกแค่ 20 ปี เรื่องนี้ คนบรูไนรู้ดี เลยมีการพัฒนาโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจบรูไน-กว่างซี” (Brunei-Guangxi Economic Corridor หรือ BGEC) โรงกลั่นน้ำมันและนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมูอารา เบซาร์ (Muara Besar refinery and petrochemical complex) ที่จีนหนุนหลังอยู่ นอกจากนี้ยังมีการลงทุน ท่าเรือ มูอารา คอนเทนเนอร์ เทอร์มินัล (Muara Container Terminal) ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ที่สุดของบรูไนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนั้น พวกบริษัทจีนยังได้ลงทุนในภาคสื่อสารโทรคมนาคมและภาคการเกษตรของรัฐสุลต่านแห่งนี้ด้วย
อันดับ 4 ‘เมียนมาร์’ เพื่อนบ้านของไทย ติดหนี้แดนมังกร ประมาณ 300,000 ล้านบาท หรือประมาณ 12% ของ GDP .. เพื่อนบ้านของเราแห่งนี้ มีเจ้าหนี้จีนอยู่ในอันดับที่ สอง เพราะอันดับหนึ่ง คือ ประเทศญี่ปุ่น รองลงมา คือ จีน โดย เป็นการกู้ลักษณะรัฐต่อรัฐ และเงินถูกใช้ไปใน กระทรวงไฟฟ้าและพลังงาน กระทรวงวางและและการคลัง กระทรวงขนส่งและสื่อสาร กระทรวงก่อสร้าง และกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในการพัฒนาประเทศแบบบูรณาการ เช่น โครงการท่าเรือ เจ้าผิว โครงการเขื่อนมิสโตน เป็นต้น
อันดับ 5 ‘เวียดนาม’ ติดหนี้จีน 550,000 ล้านบาท 6% ของ GDP
.. เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและทางรถไฟของตนเอง ทั้ง upgrade ของเดิมและก่อสร้างใหม่ โดยจะเปลี่ยนความกว้างของราง เป็น 1.435 เมตร มาตรฐานจีนแดง เพื่อเชื่อมกับโครงการ BRI นอกจากนี้ยังมีการสร้างถนน สายแรกร่วมกันด้วย นั่นคือ ด่านลาวกาย ฮานอย ไฮฟอม เข้าไปในด่านเหอโข่วภายในเขตปกครองตนเองกวางสีจ้วงของจีน ซึ่งทำให้การค้าขายระหว่างจีน และเวียดนาม พุ่งขึ้นอย่างมากและแผนใหญ่ของเวียดนามตอนนี้ คือ การเชื่อมต่อกับจีน ผ่าน 3 ด่านใหญ่ ด่านแรก เชื่อต่อจาก หนานหนิง-ผิงเซียง-ฮานอย ด่านที่สอง เชื่อมต่อ ฟางเชิงกัง-ตงชิง-ไฮฟอม-ฮานอย ด่านสุดท้าย เชื่อมระหว่าง ลาวไก ฮานอย ไฮฟอม
ปล. โครงการรถไฟฟ้าสายแรกของเวียดนามก็ใช้บริการจากจีนเช่นเดียวกัน 13 กม 13 สถานี ก่อสร้าง 13 ปี
อันดับ 7 ‘มาเลเซีย’ เพื่อนบ้านทางใต้ของเรา ติดหนี้จีน 313,000 ล้านบาท 3%ของ GDP
.. เพื่อเชื่อมโครงการ BRI ที่จีนเข้ามาลงทุน โดยมีการเร่งก่อสร้าง นิคมอุตสาหกรรม กวนตัน จีนมาเลเซีย และนิคมอุตสาหกรรม ริมฝั่งทะเลมะละกาจีน และโครงการรถไฟหลายโครงการ รวมถึงโครงการวางท่อก๊าซหลายโครงการ
อันดับ 8 ‘อินโดนิเซีย’ ติดหนี้จีน 820,000 ล้านบาท 2%ของ GDP
.. เป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงสายแรกของประเทศ จาก จาร์กาต้า-บันดุง ความยาว 142 กม. เปิดให้บริการแล้ว นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากลักษณะของประเทศที่เป็นเกาะ
อันดับ 9 ‘ฟิลิปปินส์’ ติดหนี้จีน 41,000 ล้านบาท หรือ 0.5% ของ GDP .. ประเทศทีมีหนี้จีนค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่เป็นโครงการ upgrade ท่าเรือ และโครงสร้างพื้นฐานที่มาเป็น package ในสมัยประธานาธิบดี ดูเตอร์เต้ ที่มีการเจรจาอย่างเข้มข้น เช่นเดียวกับไทย ทำให้เงิน ที่ใช้ในโปรแกรมภาษาในประเทศ เป็นส่วนใหญ่และทำให้ประเทศฟิลิปปินส์มีจำนวนหนึ่งคู่กับประเทศจีนที่ต่ำมาก
ส่วนประเทศไทยนั้น จากการวิจัยของต่างประเทศ พบว่า ไทยแทบจะไม่ได้กู้จีนเลย เนื่อง จาก ประเทศไทยแตกต่างจากประเทศอื่นอย่างมาก ไทยเรามีเงินภายในประเทศมากพอ ที่จะดำเนินโครงการต่างๆ โดยไม่ต้องกู้จากจีน รวมถึงไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แทบจะครบหมดทุกประเภท ตั้งแต่ อาคารสูง สะพานขนาดยักษ์ เขื่อน อุโมงค์ สนามบิน โรงไฟฟ้า รถไฟฟ้าบนดิน-ใต้ดิน และยังมีศักยภาพในการไปรับงานในต่างประเทศด้วย ถือเป็นหนึ่งในชาติเอเซีย ที่มีศักยภาพการก่อสร้างเทียบเท่า ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน
Cr.: moojiw edutainment channel