PostedDate: 04/01/2567
PostedBy: ASEAN “มอง” ไทย, Sappisansook Yodmongkhon
เขมรไม่ใช่ขอม
ประวัติศาสตร์เขมรที่แท้จริง
ต้องเริ่มจากจุดไหน
เขมรเอ็มไพร์ไม่มีจริง
เขมรมีอิสระภาพอยู่นานแค่ไหน
ก่อนกลายเป็นประเทศราชของสยาม
ตามอ่านของทนายท่านนี้ได้เลยครับ
แกสรุปไว้ให้เห็นชัดๆแล้ว
Sappisansook Yodmongkhon:
จากการได้ศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์ในยุคอาณาจักรฟูนัน อาณาจักรเจนละ ยุคขอมพระนคร ต่อเนื่องถึงอาณาจักรเขมรจากหลายแหล่งข้อมูล พอจะสรุปเรื่องของขอม เขมร ที่มาของเขมร และจักรวรรดิเขมรได้ดังนี้
1.ขอม ไม่ใช่เขมร ไม่ใช่ชื่อเชื้อชาติ หมายถึงคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยามาแต่ดั้งเดิม นับถือฮินดูหรือพุทธมหายาน ก่อร่างตั้งอาณาจักรขึ้นมาในดินแดนแห่งนี้มากมาย รวมไปถึงพื้นที่ในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน และเป็นบรรพบุรุษของชาวไทยในปัจจุบัน ขอมนี่แหละคือผู้สร้างปราสาทหินต่างๆ รวมถึงอังกอร์วัดด้วย นักประวัติศาสตร์ไทย ต้องเลิกยัดเยียดให้ขอมเป็นเขมรได้แล้ว เนื่องด้วยภาษาที่ใช้ วัฒนธรรมที่แตกต่าง ถิ่นที่มา เชื้อสาย ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย
2. เขมรไม่ใช่ขอม แต่เขมรเป็นชนชั้นทาส เป็นผู้รับใช้ของขอม หลักฐานที่เรียกชาวเขมรเก่าที่สุดคือ ศิลาจารึก Ka. 64 ซึ่งเป็นศิลาจารึกสมัยก่อนเมืองพระนคร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12 กล่าวถึงทาสชาวเขมรโบราณไว้ว่า “(๑๓) กฺญุม เกฺมร โฆ โต ๒๐. ๒๐. ๗ เทร สิ ๒” เมื่อมีการตรวจสอบ DNA ของชาวกัมพูชาในปัจจุบัน พบว่ามี DNA ใกล้เคียงกับชาวเกาะชวา และมี DNA ที่แตกต่างจาก ชนกลุ่มอื่นในแถบนี้ มีความเป็นไปได้ว่าเขมรจะถูกชาวอินเดียใต้ในสมัยโบราณกวาดต้อนมาเป็นทาสเพื่อสร้างปราสาทหินแบบที่สร้างปราสาทปรัมบานันบนเกาะชวา
3. ผู้ปกครองอาณาจักรฟูนันไม่ใช่เขมร โดยปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรฟูนัน คือพระเจ้าเกาฑิณยะชัยวรมันที่ 1 เป็นพราหมณ์ชาวอินเดียที่เดินทางมาจากแคว้นกลิงคะ ทรงเดินทางโดยเรือเข้ามาสู่ดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 7 ได้ทำสงครามกับชนพื้นเมืองและได้รับชัยชนะ พราหมณ์เกาฑิณยะจึงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้าเกาฑิณยะวรมันเทวะ ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์วรมัน แห่งอาณาจักรฟูนัน ดังนั้นพระราชวงศ์ผู้ปกครอง ในอาณาจักรฟูนันล้วนมาจากอินเดีย ตอนนั้นเขมรยังไม่มีปรากฏอยู่ในจารึก พงศาวดาร หรือตำนานใดๆ
4.ผู้ปกครองอาณาจักรเจนละไม่ใช่เขมร โดยปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรเจนละ คือพระเจ้าศรุตวรมัน เป็นปฐมกษัตริย์แห่งอาณาจักรเจนละ ครองราชย์เมื่อปี พ.ศ. 1093 – 1098 พระองค์สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์กัมโพช-สุริยวงศ์ ซึ่งเป็นราชวงศ์ของพราหมณ์กัมพูสวยัมภูวะกับพระนางอัปสรเมรา ซึ่งประสูติแต่เมืองกลิงคะ ประเทศอินเดีย ในประเทศอินเดียมีตำนานกล่าวถึงพราหมณ์กัมพูสวยัมภูวะเอาไว้ เช่น ได้รับการยกย่องและมีรายชื่ออยู่ท่ามกลางปราชญ์ นักรบ และผู้พิชิตชาวฮินดู ร่วมกับพระพรหมฤๅษีอคัสตยะ, พระเจ้านรสิงหวรมันที่ 1, พระเจ้าราเชนทรโจฬะที่ 1, พระเจ้าอโศกมหาราช, พระเจ้าปุษยมิตรศุงคะ และคนอื่นๆในโศลกที่ 22 ของเพลงสวดจากวรรณคดีเอกัตมตาสโตตระ ในคัมภีร์พระเวท เป็นต้น ซึ่งเขมรเริ่มปรากฏอยู่ในจารึกยุคอาณาจักรเจนละนี่เอง ในฐานะทาส
5. ในยุคอาณาจักรพระนคร ต้นราชวงศ์มหิธรปุระ ก็ไม่ใช่เขมร พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรพระนคร ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1080–1107 และเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์มหิธรปุระ แห่งเมืองพิมาย พระองค์เสด็จลงจากเมืองพิมายไปปราบกบฎและปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเขมรในกรุงยโศธรปุระ ซึ่งต่อมาคือเมืองพระนครธม พระองค์เป็นขอมพิมาย โดยมีพื้นเพอยู่ที่แถบต้นแม่น้ำมูลเป็น ชนชั้นปกครอง การที่พบรูปหล่อสำริดพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 ในพื้นทีอำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเขตการปกครองของอาณาจักรพิมาย เป็นสิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้ว่าพระองค์มีฐานะเป็นกษัตริย์ ไม่ได้เป็นขุนนางชนชั้นปกครองธรรมดาทั่วไป จารึกปราสาทพนมรุ้ง 7 กล่าวถึงราชวงศ์มหิธรปุระว่า สืบสกุลมาจากพระเจ้าหิรัณยวรมันและพระนางหิรัณยลักษมี มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่กษิตินทราคราม ทรงมีพระราชโอรสได้เป็นกษัตริย์ปกครองอาณาจักรเขมรโบราณจำนวน 3 พระองค์ คือพระเจ้าชัยวรมันที่ 6 พระเจ้าธรณีนธรวรมันที่ 1 และพระศรียุพราช
6.จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์เขมรโบราณที่แท้จริง ควรต้องเริ่มจากพ.ศ. 1879 ที่สมเด็จพระองค์ชัย หรือที่รู้จักในพระนามพระบาทตระซ็อกประแอม หรือพระบาทสมเด็จพระศรีสุริโยพันธุ์ที่ 1 หรือที่คนรู้จักกันทั่วไปในนามพระเจ้าแตงหวาน ต้นราชวงศ์นโรดมในปัจจุบัน ซึ่งตามตำนานกล่าวว่านายแตงหวานเป็นผู้ปลูกแตงเพื่อถวายพระเจ้าชัยวรมันที่ 9 ต่อมาได้ลุกฮือขึ้นก่อจลาจลเพื่อปลดแอกจากชนชั้นปกครอง จากนั้นทาสได้ร่วมกันสังหารนายทาสจนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก พงศาวดารกล่าวว่าพระเจ้าแตงหวานทรงซัดพระแสงหอกลำแพงชัยถูกพระเจ้าชัยวรมันปรเมศวรถึงแก่สวรรคตในปีพ.ศ.1879 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขมรจึงมีกษัตริย์ผู้ปกครองที่มาจากคนรับใช้เหมือนกับคนเขมร แม้ตำนานจะบันทึกไว้ว่าพระองค์ชัยจะสืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์จามปาก็ตาม ซึ่งเขมรมีเอกราชของตนเองเพียงแค่ 13 ปี ในช่วงระยะเวลา 13 ปีดังกล่าว อาณาจักรเขมรไม่ได้ขยายดินแดนเข้ามาในสยามแต่อย่างใด ดังนั้นแผนที่จักรวรรดิ Khmer empire ที่รัฐบาลกัมพูชาทำออกมาหลอกลวงคนในประเทศจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
7.นับตั้งแต่กัมพูชาได้เอกราชเป็นของตนเอง มีประวัติศาสตร์ที่แท้จริง กัมพูชาได้ตกเป็นประเทศราชของสยามหลายครั้ง กล่าวคือนับตั้งแต่ที่พระบาทตระซ็อกประแอม ขึ้นครองราชย์ในปีพ.ศ.1879 จนกระทั่งถึงรัชสมัยของพระบรมลำพงษ์ราชา กรุงศรีอยุธยาได้ยกทัพเข้าตีพระนครธม จนกระทั่งพระนครธมแตก รวมระยะเวลาที่เขมรเป็นไทยสั้นๆเพียง 13 ปี ต่อมาผ่านมาอีก 3 รัชสมัย พระศรีสุริโยวงศ์ตีนครธมคืนได้จากกรุงศรีอยุธยา ต่อมาพระองค์เสด็จทิวงคต พระอนุชาของพระองค์พระนามว่า พระบาทศรีธรรมาโศก จึงขึ้นเสวยราชย์ ในปี พ.ศ. 1906 ต่อมาในปีพ.ศ.1974 ทัพสยามของ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ได้ยกมาล้อมพระนครอีกครั้งได้ 7 เดือนกรุงจึงแตก ฝ่ายสยามได้ยกพระยาอินทราชาขึ้นครองเมืองต่างพระเนตรพระกรรณ ภายหลังพระยาอินทราชาทรงสิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคปัจจุบันจึงตั้งพระยาแกรกขึ้นครองเมืองพระนคร ฝ่ายเจ้าพระยาญาติโอรสพระองค์หนึ่งของพระศรีสุริโยวงศ์เสด็จหนีไปได้ เมื่อรวบรวมไพร่พลได้แล้วทรงยกทัพมาตีเอาพระนครคืน เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้วทรงตัดสินพระทัยในการย้ายราชธานีไปที่เมืองจตุมุข จนกระทั่งในรัชสมัยของพระไชยเชษฐาธิราช เขมรได้ตกเป็นประเทศราชของสยาม ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 ได้ประกาศเอกราชจากสยาม จนกระทั่งใน พ.ศ. 2136 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพมาตีกรุงละแวกได้สำเร็จ อาณาจักรเขมรละแวกได้ตกเป็นประเทศราชกรุงศรีอยุธยา เป็นครั้งที่สองในยุคของสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 ในครั้งนี้กองทัพอยุธยาได้ตีกรุงละแวกจนราบพนาสูร หาเมืองไม่เจอจนทุกวันนี้ กรุงกัมพูชาตกเป็นอาณานิคมของสยามจนกระทั่งถึงปีพ.ศ 2406 กัมพูชาจึงตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส รวมระยะเวลาที่กัมพูชาตกเป็นประเทศราชของสยามต่อเนื่องยาวนานถึง 297 ปี ไม่นับระยะเวลาที่ ตกเป็นประเทศราชก่อนหน้านี้อยู่หลายครั้ง
8.ในยุคอาณาจักรฟูนัน อาณาจักรเจนละ ในยุคอาณาจักรเขมรพระนคร ในแผ่นดินสยามมีอาณาจักรต่างๆตั้งอยู่ก่อนแล้วมากมายเช่นอาณาจักรศรีเทพ อาณาจักรละโว้ อาณาจักรสุโขทัย อาณาจักรศรีจนาศะ อาณาจักรศรีวิชัย ฯ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีจักรวรรดิ Khmer empire ตามแผนที่ที่เขมรทำออกมาตบตาชาวโลก จึงเป็นที่มาของข้อสรุปของยูเนสโกที่ตบหน้าชาวเขมรอีกคราว่าจักรวรรดิเขมรไม่มีอยู่จริง เขมรเอาอาณาจักรของขอมโบราณ มาอ้างเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ตนเอง ทั้งที่ตนเองไม่รู้อยู่ตรงไหนช่วงประวัติศาสตร์นั้นเลย
บทเรียนของเขมรยังต้องปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องอีกมาก ว่าตนเองมีต้นกำเนิดเก่าแก่มาตั้งแต่อาณาจักรฟูนัน ทั้งที่ไม่มีชื่อตนเองอยู่ในประวัติศาสตร์นั้นเลย เพียงแค่มีดินแดนบางส่วนอยู่ในประเทศกัมพูชาปัจจุบันเท่านั้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งยืนยันว่ากลุ่มชนที่ปกครองอาณาจักรเป็นคนเขมร และบทเรียนที่สอนว่า คนไทยมาจากจีนตอนใต้ แล้วขับไล่แย่งชิง ดินแดนและวัฒนธรรมทุกอย่างไปจากเขมรก็เป็นเท็จ เพราะเขมรไม่เคยเป็นผู้ปกครองแผ่นดินสยาม บนแผ่นดินสยามในอดีตล้วนแต่มีอาณาจักรต่างๆมากมาย มีพยานหลักฐานมากมายที่ชี้ให้เห็นว่ามีมนุษย์อาศัยอยู่ตั้งแต่ยุคหินกลาง ยุคหินใหม่ ยุคสัมริด ยุคเหล็ก ยุคทวารวดี จนกระทั่งขอมได้เข้ามามีอำนาจ เป็นหลักฐานว่าคนไทยอาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้มานานแสนนานแล้ว ไม่ได้มาจากที่อื่นแล้วไล่ตียึดเอาดินแดนเขมรอย่างที่โกหกกัน โดยเฉพาะความเข้าใจผิดของนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ของไทยบางคน ที่พบเจอโบราณสถานหรือโบราณวัตถุที่ยังตีความไม่ได้ ก็โยนให้เป็นของเขมรโบราณไว้ก่อน ทั้งที่เขมรในยุคนั้นไม่ได้สรรสร้างอะไร เป็นแค่ทาส ชนชั้นปกครองล้วนเป็นขอม และพราหมณ์ที่มาจากอินเดีย ชนชั้นปกครองเหล่านี้รักษาเอกลักษณ์ของตนเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น สังเกตดูจากภาพสลักหินที่เป็นภาพปรากฏมหากาพย์รามายณะ การละเล่น การต่อสู้ กิจกรรมต่างๆของชาวอินเดียใต้ ภาพสลักจากความเชื่อในศาสนาฮินดู ซึ่งมีความเคร่งครัดในเรื่องของวรรณะ เชื้อชาติอย่างยิ่ง การใช้ภาษาจารึก ใช้ภาษาปัลวะ หรือภาษาหลังปัลวะ ภาษาขอมโบราณ รวมถึงการใช้ภาษาสันสกฤต ซึ่งมีความแตกต่างจากอักษรเขมรโบราณ แล้วเมื่อมองย้อนลึกลงไปให้ละเอียดขึ้น อาณาจักรแต่ละแห่งล้วนมีงานศิลปะในแบบของตนเอง ซึ่งสามารถจำแนกถึงที่มาของโบราณวัตถุเหล่านั้นได้ การตีความว่าเป็นของเขมรไปหมดจึงไม่ถูกต้อง สมควรปรับปรุงวิชาประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ให้ถูกต้อง เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ที่ใกล้เคียงกับข้อเท็จจริงมากที่สุด รู้ที่มาที่ไปของชนชาติตนเอง ให้เกิดความภูมิใจและหวงแหนวัฒนธรรมของตนเอง รู้รากฐานของตนเองว่าเราเป็นใคร มาได้อย่างไร มากกว่ารู้ประวัติศาสตร์เพียงผิวเผินว่าประวัติศาสตร์ไทยเริ่มจากอาณาจักรสุโขทัย ทั้งที่หลักฐานใหม่ที่พบเจอมากมาย สามารถระบุตัวตนของคนไทยไปได้ไกลกว่านั้นมาก
ปล.ภาพ AI ครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชไปตีกรุงละแวก และจับกุมตัวพระศรีสุริโยพรรณ และพระโอรสอีกสองพระองค์คือพระชัยเจษฎาและพระอุทัย นำตัวกลับไปกรุงศรีอยุธยาในฐานะองค์ประกัน