Da0DaoStudio
เมื่อประมาณปี 2554 ทางกัมพูชายื่นเสนอขึ้นทะเบียน วรรณคดีเรื่องพระอภัยมณีต่อ UNESCO
เลยลองลิสต์รายการที่เขมรเคลมดู ว่ามันเยอะ ชนิดที่เครื่องถ่ายเอกสารยังอายเลย
-คนดัง
-บุคคลในประวัติศาสตร์
-อาหาร
-วรรณกรรม ภาษา
-วรรณคดี นิทาน
-เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ
-เทศกาล งานประเพณี
-โขน ตัวละคร
-ปฏิมากรรมทางวัฒนธรรม
-ตำนานพื้นบ้าน
-มวย ชุดแข่ง
-สถาปัตยกรรมเก่า
-ภาพยนตร์ ละคร MV
-จิตรกรรม
-ศิลปกรรม โลโก้ งานออกแบบ
-ดนตรี ทำนองเพลง
แทบจะเกือบครบทุกเรื่องของเมืองไทยแล้ว เคลมกันทุกด้านได้ขนาดนี้ ยังนึกไม่ออกว่าจะมีประเทศไหนในโลกที่ทำได้แบบนี้บ้าง น่าจะเป็นแห่งเดียวบนโลกแล้วมั้ง
นึกถึงเมืองจีนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นราชาของการ ก้อปปี้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ทางด้านสินค้าหรือทางวัตถุเพื่อการค้าเท่านั้น
ซึ่งจีนเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องของการก้อปปี้ในบ้านเขา และก็ไม่ได้อ้างด้วยว่าเป็นเจ้าของเป็นต้นตำรับ หรือคิดขึ้นมาเอง ทุกวันนี้จีนเองก็พัฒนา และวิจัยต่อยอดจนกลายเป็นผู้ผลิต เป็นโรงงานของโลกไปแล้ว
แต่ของคนข้างบ้านเรานี่ สุดแสนที่จะบรรยาย และมองไม่เห็นถึงการพัฒนาทางด้านไหนเลย มันสะท้อนถึงระดับสติปัญญาของคนในชาติได้เป็นอย่างดี 🤭นี่แหละเขาจึงบอกว่าการศึกษามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองมาก
สรุปง่ายๆคือกูจะเอาทุกอย่างมาเป็นของกูเอง
หรืออินเตอเนตที่เราเล่นอยู่ก็มาจากเขมร
ชักไม่แน่ใจตัวเองแล้วว่า เราอาจจะเริ่มกลายเป็นเขมรนิดๆไปแล้วมั้ง.....
credit : Nok Navigator [AWCC V3]